
สา ส์นจากนายก
ศ.นพ. วรศักดิ์ โชติเลอศักดิ์
ก่อนอื่นข้าพเจ้าต้องขอขอบพระคุณคณาจารย์และเพื่อนร่วมงานทุกท่านที่ไว้วางใจให้ข้าพเจ้าดำรงตำแหน่งนายกสมาคมมนุษยพันธุศาสตร์เป็นคนแรก ข้าพเจ้าตั้งปณิธานไว้ว่าจะมุ่งมั่น ตั้งใจ ทุ่มเทวางรากฐานของสมาคมฯ ให้แข็งแกร่งโดยไว เพื่อให้สมาชิกได้ทำงานตามพันธกิจของสมาคมฯได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพอันจะยังประโยชน์ให้เกิดแก่สังคมโดยส่วนรวมต่อไป
ประเทศไทยมีสมาคมพันธุศาสตร์แห่งประเทศไทยมาตั้งแต่ พ.ศ. 2528 โดยสมาคมพันธุศาสตร์แห่งประเทศไทยมีพันธกิจเกี่ยวกับพันธุศาสตร์ครอบคลุมทั้งมนุษย์ สัตว์ พืช จุลินทรีย์และอื่น ๆ ในระยะเวลาไม่นานมานี้ องค์ความรู้และเทคโนโลยีทางพันธุศาสตร์และคอมพิวเตอร์ก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว จีโนมอ้างอิงของมนุษย์ได้ทำแล้วเสร็จในช่วงปี พ.ศ. 2546 (ค.ศ. 2003) เทคโนโลยีการหาลำดับเบส (sequencing technology) พัฒนาจนเป็น massive parallel sequencing หรือ next generation sequencing (NGS) ซึ่งสามารถหาลำดับเบสทั้งสามพันล้านเบสของมนุษย์คนหนึ่งได้ในเวลาหลักวัน ด้วยค่าใช้จ่ายเพียงหลักหมื่นบาท ทำให้พันธุศาสตร์ขยับจากการเป็นวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์เข้าสู่การแพทย์และในปัจจุบันหลายประเทศในโลกได้นำองค์ความรู้ด้านพันธุศาสตร์นี้ประยุกต์เข้าสู่ระบบสาธารณสุขแล้ว ดังนั้น เพื่อให้การหาองค์ความรู้ใหม่และการประยุกต์ใช้องค์ความรู้และเทคโนโลยีที่มีเหล่านี้กับสุขภาพมนุษย์ การแพทย์และการสาธารณสุขของประเทศไทยเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มหนึ่งจึงได้รวมตัวกันก่อตั้ง “สมาคมมนุษยพันธุศาสตร์” ซึ่งได้รับการจดทะเบียนจัดตั้งสมาคมขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2562
สมาคมมนุษยพันธุศาสตร์จะเป็นองค์กรที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่สนใจเพื่อสร้างและใช้องค์ความรู้ตลอดจนเทคโนโลยีด้านมนุษยพันธุศาสตร์ให้เกิดประโยชน์กับมนุษย์มากที่สุด เนื่องจากพันธุศาสตร์จะเกี่ยวพันกับทุกช่วงชีวิตของมนุษย์ ตั้งแต่ช่วงวางแผนแต่งงาน ช่วงก่อนและระหว่างตั้งครรภ์ ช่วงวัยทารกจนถึงวัยชรา และเกี่ยวข้องกับหลากหลายแง่มุมของชีวิต ทั้งด้านการสร้างสุขภาพที่ดี โดยอาศัยข้อมูลทางพันธุศาสตร์ที่มีหลักฐานทางวิชาการรองรับ ด้านความเจ็บป่วย ซึ่งปัจจัยทางพันธุกรรมมีความเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคของทุกอวัยวะและทุกระบบ ด้านจริยธรรม กฎหมายและสังคม เช่น การตรวจโรคก่อนมีอาการ การจ้างงานผู้ที่มีการกลายพันธุ์ การทำแท้งและการทำประกันสุขภาพ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีด้านมนุษยพันธุศาสตร์ จึงมีทั้งบุคลากรทางการแพทย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกสาขา (all medical specialties) นักวิทยาศาสตร์ นักชีววิทยา วิศวกรคอมพิวเตอร์ ผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์เกิดใหม่ เช่น นักให้คำปรึกษาแนะนำทางพันธุศาสตร์ (Genetic counsellors), Bioinformaticians, Variant scientists ตลอดจนผู้ป่วยและครอบครัว ผู้เชี่ยวชาญด้านจริยธรรม ศาสนา กฎหมาย สังคม เศรษฐศาสตร์และธุรกิจ จากสถาบันการศึกษา หน่วยงานต่าง ๆ ในกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และทุกภาคส่วนของสังคม ทั้งในและต่างประเทศ
สมาคมมนุษยพันธุศาสตร์มีพันธกิจหลักด้านวิชาการ การศึกษา การวิจัยและการประยุกต์งานด้านพันธุศาสตร์ในทุกสาขาที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ เพื่อสุขภาพ การแพทย์และสาธารณสุข การที่พันธุศาสตร์จะเป็นประโยชน์เพื่อสุขภาพที่ดีของคนในสังคมโดยรวมได้ จำเป็นที่ผู้เชี่ยวชาญต้องสื่อสารองค์ความรู้ให้กับประชาชนผู้ใช้บริการทางด้านเทคโนโลยีด้านพันธุศาสตร์ เมื่อประชาชนมีข้อมูลและมีความรู้ ก็จะสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง นำข้อมูลไปใช้ได้โดยเกิดประโยชน์สูงสุด บริษัทที่ใช้เทคโนโลยีทางพันธุศาสตร์เพื่อการบริการ การตรวจวินิจฉัยหรือการพยากรณ์โรคก็จะทำธุรกิจอย่างมีจรรยาบรรณ มีหลักฐานทางวิชาการรองรับ
ในทางการแพทย์ องค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านมนุษยพันธุศาสตร์ได้ผลักดันให้เกิดการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการใช้หลักฐานทางการแพทย์ เกิดการพัฒนาเปลี่ยนยุค จากการแพทย์ที่ใช้หลักฐานสำคัญที่สุดจาก randomized placebo-controlled trials ซึ่งจะได้ค่าเฉลี่ยของประชากร (population average) เข้าสู่ยุคการแพทย์เฉพาะบุคคล (personalized medicine) การแพทย์จีโนม (genomics medicine) และการแพทย์แม่นยำ (precision medicine) ดัชนีชี้วัดความสำเร็จหนึ่งของสมาคมฯคือ จำนวนแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสาขาอื่น (medical specialties) เช่น แพทย์โรคระบบประสาท โรคเลือด โรคต่อมไร้ท่อ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคปอดและระบบทางเดินหายใจ โรคระบบทางเดินอาหาร โรคไตและระบบทางเดินปัสสาวะ โรคผิวหนัง โรคภูมิคุ้มกัน และโรคตา รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์สาขาอื่น เช่น ทันตแพทย์ พยาบาล เภสัชกรและนักเทคนิคการแพทย์ ที่สนใจจะเข้าร่วมกับกิจกรรมของสมาคมมนุษยพันธุศาสตร์ และจำนวนผู้เชี่ยวชาญด้านมนุษยพันธุศาสตร์ที่ได้รับเชิญให้ไปเข้าร่วมกิจกรรมของสมาคมวิชาการและวิชาชีพอื่นๆ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ป่วยโรคพันธุกรรมของทุกสาขาได้รับการวินิจฉัยที่แม่นยำและการดูแลรักษาอย่างตรงเหตุและมีประสิทธิภาพ
ในส่วนของการประยุกต์งานด้านพันธุศาสตร์เพื่อการสาธารณสุขนั้น งานของสมาคมฯจะเกี่ยวข้องกับโครงการ Genomics Thailand อย่างใกล้ชิด โครงการนี้จะดำเนินการถอดรหัสพันธุกรรมของคนไทย 50,000 คน ซึ่งจะมีทั้งกลุ่มโรคพันธุกรรมยีนเดียว โรคหายาก โรคที่ยังให้การวินิจฉัยไม่ได้ โรคมะเร็ง โรคเรื้อรังไม่ติดต่อ โรคติดเชื้อ และเภสัชพันธุศาสตร์ นอกจากจะได้ฐานข้อมูลจีโนมของคนไทยแล้ว ยังจะทำให้ได้การวินิจฉัยที่แน่ชัดอันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับผู้ป่วย ครอบครัวและสังคมโดยรวม
สมาคมมนุษยพันธุศาสตร์ยังมีพันธกิจที่จะส่งเสริมการศึกษาผลกระทบของความรู้และเทคโนโลยีด้านพันธุศาสตร์ต่อจริยธรรม กฎหมายและสังคม (Ethical, Legal and Social Issues; ELSI) รวมทั้งศาสตร์นี้จะมีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาทางสุขภาพและสังคมที่ส่งผลกระทบรุนแรง เช่น โรคระบาด COVID-19 โดยเทคโนโลยีทางอณูพันธุศาสตร์ถูกใช้เป็นหลักในการตรวจวินิจฉัยโรค รวมทั้งการหาองค์ความรู้ใหม่เพื่อการพยากรณ์ความรุนแรงของโรค
แม้ว่าสมาคมมนุษยพันธุศาสตร์จะเป็นสมาคมก่อตั้งใหม่ แต่ด้วยพันธกิจที่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อสังคมไทย ประกอบกับสมาชิกเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ มุ่งมั่น ทุ่มเท เสียสละและอุทิศตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ข้าพเจ้ามั่นใจว่า สมาคมมนุษยพันธุศาสตร์จะสามารถวางรากฐานและเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เป็นองค์กรที่จะทำให้สมาชิกมารู้จักและประสานพลังกันเพื่อเป็นที่พึ่งทางวิชาการและทำประโยชน์ให้เกิดแก่สังคมโดยรวมได้อย่างกว้างขวางสืบไป
